โดย อาจารย์มูฮัมมัด ถือความตรง
ขอความสันติสุข ความผาสุกทั้งโลกนี้และโลกหน้า จงมีแด่พี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาทุกท่าน ท่านพี่น้องที่เคารพ การละหมาด คือเกราะป้องกันความชั่วและอบายมุข ทั้งมวล ก่อนอื่นขอพวกเราจงยำเกรงต่อพระองค์ الله سبحانه وتعالى ด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ และละทิ้งห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามแล้วเราจะได้รับความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
การละหมาดเป็นรุก่น (หลักการ) ที่สองของรุก่นอิสลาม และเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งรองลงมาจากการปฏิญาณตน เพราะการละหมาดคือเสาหลักของศาสนา ที่มุสลิมทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาและคงไว้ตราบใดที่ชีวิตยังมีอยู่ พระองค์ الله سبحانه وتعالى ได้กำชับบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายให้ช่วยกันรักษาและดำรงการละหมาดห้าเวลาไว้
ดังดำรัสของพระองค์ความว่า
حَافِظُواْ عَلَى الصَّلَوَاتِ والصَّلاَةِ الْوُسْطَى وَقُومُواْ لِلّهِ قَانِتِينَ سورة البقرة:238
“พวกเจ้าจงรักษาการละหมาดทั้งหลายไว้ และละหมาดที่อยู่กึ่งกลาง (คือ ละหมาดอัศริ)
และจงยืนละหมาดเพื่อพระองค์ الله سبحانه وتعالى โดยนอบน้อม”
สิ่งสุดท้ายที่ท่านนบี سيدنا محمد ﷺ ได้ฝากไว้กับเหล่า เศาะหาบะฮฺ ของท่านก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไปก็คือการละหมาดห้าเวลา การละหมาดเป็นศาสนกิจอันหนึ่งที่จะช่วยสานสายสัมพันธ์อันดีงามและมั่นคง ระหว่างพระผู้เป็นเจ้า กับบ่าวของพระองค์ นับตั้งแต่เราเริ่มกล่าว ตักบีรฺ (อัลลอฮุ อักบัรฺ) ก็แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ขณะนี้บ่าวกำลังเข้าเฝ้า พระองค์ الله سبحانه وتعالى พระองค์ผู้ทรงสร้าง เพราะว่าตั้งแต่ ตักบีร จนถึงการให้ สลาม เราจะเห็นได้ว่ากิริยามารยาท และทุกอิริยาบถที่ถูกแสดงออกมาในช่วงประกอบพิธีละหมาดนั้น คืออิริยาบถของบ่าวผู้อ่อนแอที่กำลังเข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ คือ พระองค์ الله سبحانه وتعالى
ส่วนหนึ่งของประโยชน์สำหรับผู้ที่รักษาไว้ซึ่งการละหมาด คือ การละหมาดจะช่วยชำระบาป และจะช่วยชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ หรือบาปอันเป็นสิ่งโสโครกที่ติดอยู่ให้หมดสิ้นไป
ดังหะดีษ บทหนึ่งระบุว่า ท่าน อบีฮุรอยเราะฮ์ ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบี سيدنا محمد ﷺ กล่าวว่า
“พวกท่านลองตอบสิว่า ถ้าหากว่าหน้าประตูบ้านของพวกท่านมีแม่น้ำไหลผ่าน เพื่อที่พวกท่านจะได้อาบน้ำชำระร่างกายห้าครั้ง ในทุกๆวัน แล้วท่านยังจะมีสิ่งสกปรกหรือกลิ่นตัวติดเหลือค้างอยู่อีกไหม?”
บรรดาผู้ที่ฟังท่านอยู่ตอบว่า จะไม่มีสิ่งสกปรกลงเหลือเลย
ท่านนบี سيدنا محمد ﷺ ก็กล่าวอีกต่อไปว่า “ดังนั้นการละหมาดห้าเวลาก็เช่นกัน พระองค์ الله سبحانه وتعالى จะทรงชำระบาปและความผิดต่างๆ ของพวกท่านด้วยละหมาด”
(รายงานโดย อัล-บุคอรีย์ และมุสลิม)
และ ท่านนบี سيدنا محمد ﷺ ได้กล่าวไว้อีกว่า
“การละหมาดห้าเวลาและการละหมาด ญุมอะฮฺ (ละหมาดวันศุกร์) หนึ่งไปยังอีก ญุมอะฮฺ หนึ่ง มีผลตอบแทนคือ พระองค์ الله سبحانه وتعالى จะทรงไถ่โทษ (ชำระบาป) ในทุก ๆ บาปที่ไม่ใช่บาปใหญ่”
(รายงานโดย มุสลิมและ ตีรมีซี)
ท่านพี่น้องครับ การละหมาดมิใช่เพียงแต่สามารถชำระบาปและสิ่งโสโครกเท่านั้น แต่การละหมาดยังสามารถสร้างเกราะป้องกันบาปอีกด้วย ดังคำดำรัสของ พระองค์ الله سبحانه وتعالى ที่ระบุว่า
وَلَذِكْرُ اللَّهِ أَكْبَرُ وَاللَّهُ يَعْلَمُ مَا تَصْنَعُونَ إِنَّ الصَّلَاةَ تَنْهَى عَنِ الْفَحْشَاء وَالْمُنكَرِيْكَ مِنَ الْكِتَابِ وَأَقِمِ الصَّلَاةَ اتْلُ مَا أُوحِيَ إِلَ
“แท้จริงการละหมาดสามารถยับยั้ง มิให้กระทำความโสมมและความชั่ว”
(ซูเราะฮฺ อัล-อันกะบูต : 45)
นักอธิบายกุรอาน ได้อธิบายพระดำรัสของ พระองค์ الله سبحانه وتعالى ที่ตรัสความว่า
“แท้จริง การละหมาดนั้น จะยับยั้งสิ่งลามกทั้งหลาย และสิ่งชั่วช้า (ที่ศาสนาไม่ยอมรับ)”
ได้อธิบายว่า แท้จริงในการละหมาดมีสามประการด้วยกัน ถ้าปราศจากประการใดประการหนึ่งในทั้งสามนี้ ก็ไม่ถือว่าการละหมาดนั้นเป็นการละหมาดเพื่อพระองค์ الله سبحانه وتعالى สามประการนั่นก็คือ ความสุจริตใจ ความกลัว และ การรำลึกนึกถึงพระองค์ الله سبحانه وتعالى ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นตัวบ่งชี้ที่กำชับให้กระทำความดี และยับยั้งจากความชั่ว
นั่นเป็นเพราะว่า การละหมาดคือ แสงสว่างที่จะช่วยส่องจิตใจของผู้ศรัทธาบนโลก ดุนยา และโลก อาคิเราะฮฺ ให้สว่างไสว การละหมาดนั้นสรรสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ละหมาดอันใหญ่หลวง ดังประการต่อไปนี้
1. ป้องกันการกระทำความชั่ว
การละหมาดจะช่วยสร้างจิตสำนึกความรู้สึกถึงการเฝ้าดูของพระองค์ الله سبحانه وتعالى อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความกลัวในใจของพวกเราตลอดเวลา จะเป็นไปได้อย่างไร ? ที่เราจะทำบาป ทำความผิด ทั้งที่เรารู้ว่า ผู้คุมกฎเฝ้าดูเราตลอด
ดังพระองค์ الله سبحانه وتعالى ตรัสความว่า البقرة: 235
وَلاَ جُنَاحَ عَلَيْكُمْ فِيمَا عَرَّضْتُم بِهِ مِنْ خِطْبَةِ النِّسَاء أَوْ أَكْنَنتُمْ فِي أَنفُسِكُمْ عَلِمَ اللّهُ أَنَّكُمْ سَتَذْكُرُونَهُنَّ وَلَـكِن لاَّ تُوَاعِدُوهُنَّ سِرًّا إِلاَّ أَن تَقُولُواْ قَوْلاً مَّعْرُوفًا وَلاَ تَعْزِمُواْ عُقْدَةَ النِّكَاحِ حَتَّىَ يَبْلُغَ الْكِتَابُ أَجَلَهُ وَاعْلَمُواْ أَنَّ اللّهَ يَعْلَمُ مَا فِي أَنفُسِكُمْ فَاحْذَرُوهُ وَاعْلَمُواْ أَنَّ اللّهَ غَفُورٌ حَلِيمٌ
“เจ้าจงทราบเถิด แท้จริงพระองค์ ทรงรู้ทุกสิ่ง ในตัวของพวกเจ้า พวกเจ้าจงเกรงกลัวพระองค์ในทุก ๆการกระทำเถิด”
2. ทำให้จิตใจของเราดีขึ้น
การละหมาดตอบสนองความต้องการทางด้านจิตใจ ในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้สร้าง ซึ่งจะทำให้จิตใจของเราสงบและมีความพึงพอใจ ท่ามกลางการดำเนินชีวิตที่สับสนวุ่นวาย
พระองค์ الله سبحانه وتعالى ตรัสความว่า الرعد : 28
الَّذِينَ آمَنُواْ وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُم بِذِكْرِ اللّهِ أَلاَ بِذِكْرِ اللّهِ تَطْمَئِنُّ الْقُلُوبُ
“พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงพระองค์ الله سبحانه وتعالى เท่านั้น ทำให้จิตใจสงบ”
3. ทำให้คุณเป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
ความเย่อหยิ่งและยโสจะถูกกำจัดออกโดยการรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ الله سبحانه وتعالى และการพึ่งพาพระองค์ ซึ่งในละหมาด มุสลิมต้องวางศีรษะ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สูงที่สุดของร่างกายและแหล่งที่มาของสติปัญญาลงบนพื้น พร้อมกับกล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์แด่พระผู้อภิบาลของฉันผู้ทรงสูงส่งยิ่ง และการสรรเสริญเป็นสิทธิ์แด่พระองค์”
พระองค์ الله سبحانه وتعالى ตรัสความว่า المومنون : 1-2
قَدْ أَفْلَحَ الْمُؤْمِنُونَ الَّذِينَ هُمْ فِي صَلَاتِهِمْ خَاشِعُونَ
“แน่นอน บรรดาผู้ศรัทธาที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนในเวลาละหมาดของพวกเขา”
4. ชำระล้างบาป/ขจัดบาป
ทุกคนล้วนกระทำบาป อย่างไรก็ตาม พระองค์ الله سبحانه وتعالى ทรงเตรียมวิธีการขจัดบาปเหล่านั้นโดยผ่านการละหมาด
พระองค์ الله سبحانه وتعالى ตรัสความว่า الهود :11
إِلاَّ الَّذِينَ صَبَرُواْ وَعَمِلُواْ الصَّالِحَاتِ أُوْلَـئِكَ لَهُم مَّغْفِرَةٌ وَأَجْرٌ كَبِيرٌ
“และเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลาย”
5. รวมมุสลิมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
การละหมาด ญะมาอะฮฺ ปลูกฝังความเป็นภารดรภาพ ความเท่าเทียม และความอ่อนน้อมถ่อมตนระหว่างมุสลิมด้วยกัน โดยผู้ทำ อิบาดะฮฺ ยืนเป็นแถวเดียวกันดั่งเรือนร่างเดียวกัน ไหล่เคียงไหล่ ปราศจากการแบ่งแยกทางเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ สีผิว ความมั่งมี วงศ์ตระกูล หรือสถานภาพ การแสดงออกซึ่งความเป็นเอกภาพนี้ช่วยทำลายกำแพงทั้งหมดที่กั้นระหว่างกันพระองค์ الله سبحانه وتعالى จะทรงรับการงานที่ดีจากบ่าวของพระองค์ จะทรงเพิ่มพูนรางวัล และผลบุญให้แก่เขา และในหัวอกที่บ่าวนั้นผูกพันอยู่กับการปฏิบัติ จากสิ่งที่ถูกต้องของการละหมาด
ดังนั้นหากบ่าวดำรงการละหมาดอย่างสมบูรณ์ โดยไม่มีข้อบกพร่อง ยอมจำนนอยู่กับพระองค์ الله سبحانه وتعالى จิตใจยึดโยงอยู่กับพระองค์ แน่นอนการละหมาดของเขาย่อมได้รับการตอบรับจากพระองค์ เพราะนั่นคือวิญญาณของการละหมาดที่ผูกพันอยู่กับพระองค์ตลอดเวลา
บทสรุปและบทเรียนที่ได้รับจาก คุตบะฮ์ คือ
- การละหมาด มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นหลักการข้อที่สองของรุก่นอิสลาม
- การละหมาด คือการแสดงความเคารพภักดีต่อพระองค์ الله سبحانه وتعالى ที่มุสลิมทุกคนต้องดำรงไว้อย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ
- การละหมาด เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ของผู้เป็นบ่าวกับพระผู้เป็นเจ้าของเขา
- การละหมาดห้าเวลา สามารถเป็นได้ทั้งการชำระล้างบาปและสิ่งสกปรกในจิตใจของมนุษย์ และยังเป็นเกราะกำบังจากการล่อลวงของ ชัยฏอน ที่คอยชักจูงมนุษย์ในทางที่ผิด
- การละหมาด เป็นแสงสว่างให้กับมนุษย์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ
Ref. https://www.islammore.com/view/5452