[ad_1]
l มองเห็นตัวเองเป็นบ่าวที่บกพร่อง l
ท่านนบีของเราเป็นมนุษย์ที่ดีที่สุด แต่ท่านนบีก็ยังคงอิสติฆฟาร(ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ)ทุกวันอย่างมากมาย และยิ่งตอนท้ายชีวิตท่านนบียิ่งทวีทำมากขึ้นอย่างนับไม่ถ้วน ดังที่ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานถึงชีวิตบั้นปลายของท่านนบีที่เต็มไปด้วยการกล่าวถ้อยคำตัสบีหและอิสติฆฟารอย่างมากมาย
จากชีวิตที่ท่านนบีเป็น ทำให้นึกถึงคำกล่าวของอีหม่ามอิบนุ กอยยิมที่ว่า “บ่าว(ที่แท้จริง)จะไม่มองตนเอง เว้นแต่เห็นเป็นคนบกพร่อง เห็นเป็นคนบาป และเขาจะไม่มองพระผู้เป็นเจ้าของเขา เว้นแต่เห็นความดีงาม เห็นความดีเลิศ”
เป็นการสรุปให้เห็นถึงความเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงนั้นมี 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือการสำนึกในการเป็นบ่าวที่ผิดพลาด ความเป็นบ่าวที่บกพร่องอยู่เสมอ ในขณะอีกด้านหนึ่งก็คิดถึงพระผู้เป็นเจ้าในแง่ดี เห็นความดีพร้อม ความดีเลิศ อยู่ตลอด
ท่านนบีเป็นผู้ที่กล่าวถ้อยคำ 2 แบบอย่างมากมายในตอนท้ายของชีวิต นั่นคือ “ตัสบีห” และ “อิสติฆฟาร” มันเป็นแนวทางที่ถูกวางไว้ในสูเราะฮฺอันนัศรฺ (หลังการพิชิตมักกะฮฺ) ที่มีเนื้อหาคำสั่งว่า
فسبح بحمد ربك واستغفره
(ดังนั้น เจ้าจงตัสบีหฺด้วยการสรรเสริญต่อพระเจ้าของเจ้า และจงอิสติฆฟารฺต่อพระองค์)
ถ้อยคำตัสบีหฺนั้นคือการกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้าอย่างดีเลิศที่สุด และเป็นการปฏิเสธจินตนาการอันผิดๆ ของมนุษย์ที่ต่อพระองค์ ส่วนอิสติฆฟารนั้นเป็นการกล่าวถึงตนเองด้วยการขออภัยโทษและการกล้บเนื้อกลับตัวไปยังพระองค์… ผู้ศรัทธาคือผู้ที่ดำรงอยู่ด้วยความรู้สึกและตระหนักรู้ใน 2 ด้านนี้เสมอ
|อัล อัค|
[ad_2]
Source (แหล่งอ้างอิง)