ขอบคุณเนื้อหาจากช่องยูทูบ : Manoottangwai
1. เริ่มต้นลงทุนตอนอายุ 20 เฟิร์นเริ่มลงทุนด้วยเงินเพียง 2,000 บาท ซึ่งเป็นขั้นต่ำในการลงทุนในยุคนั้น โดยเลือกลงทุนในกองทุนรวม SET50 (หุ้นไทย) ก่อน เพราะตลาดหุ้นยังดีอยู่ในช่วงนั้น
2. วิกฤตเศรษฐกิจและการลงทุน ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจซับไพรม์ (Subprime Crisis) ตลาดหุ้นร่วงลงมากถึง 50% แต่เฟิร์นยังคงลงทุนต่อเนื่องผ่านการใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging) โดยไม่หยุดลงทุน
3. การตั้งเป้าหมายแรก หลังจากพอร์ตการลงทุนเริ่มเติบโตจนเห็นตัวเลข 6 หลัก เฟิร์นตั้งเป้าหมายว่าจะมีเงิน 1 ล้านบาทแรกก่อนอายุ 30 และเมื่อรายได้จากงานและการลงทุนเริ่มเพิ่มขึ้น เธอก็สามารถเร่งไปถึงเป้าหมายได้
4. แนวคิดในการจัดการเงิน เฟิร์นแบ่งครึ่งหนึ่งของรายได้มาลงทุนเสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย (ไม่ต้องทำเหมือนเฟิร์นก็ได้ เริ่มที่ 2% 5% 10% ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว)
5. หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในหุ้น เฟิร์นไม่ได้มุ่งเน้นการเก็งกำไรหุ้นรายตัว แต่เน้นการลงทุนในหุ้นทั่วโลก เช่น หุ้นอเมริกา จีน อินเดีย ผ่านกองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง
6. คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น เฟิร์นแนะนำให้แบ่งเงินบางส่วนจากการซื้อหวยมาลงทุนในกองทุนรวม แม้ผลตอบแทนอาจไม่สูงมาก แต่มีโอกาสดีกว่า และสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้
7. ลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดจะผันผวน แต่การลงทุนอย่างสม่ำเสมอและไม่หยุดลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พอร์ตการลงทุนเติบโต
วิธีลงทุนจนมี 1 ล้านแรกก่อนอายุ 30
การมีเงินล้านแรกก่อนอายุ 30 เป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่ความสำเร็จนั้นไม่ได้มาโดยง่าย ต้องมีการวางแผนและการลงทุนที่มีความรู้และรอบคอบ ดังนี้:
1. ตั้งเป้าหมายทางการเงิน
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้คุณมีแรงจูงใจและแนวทางในการลงทุน กำหนดเป้าหมายว่าเมื่อใดที่คุณต้องการมีเงินล้าน และทำแผนการออมและการลงทุนให้ตรงกับเป้าหมายนั้น
2. ออมเงินก่อนใช้จ่าย
หนึ่งในวิธีการออมเงินที่มีประสิทธิภาพคือการเก็บเงินก่อนที่จะใช้จ่าย แต่ละเดือนควรหักเงินออกมาสำหรับออมอย่างน้อย 20-30% ของรายได้
3. ศึกษาและทำความเข้าใจการลงทุน
การลงทุนไม่ใช่แค่การซื้อหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ แต่รวมถึงการลงทุนในความรู้และทักษะของตัวเองด้วย ศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น กองทุนรวม, หุ้น, หรือ Cryptocurrency
4. หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินที่มีดอกเบี้ยสูง
การกู้ยืมเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสามารถทำให้คุณเสียเงินมากกว่าที่คิด ควรใช้หนี้ให้หมดเร็วที่สุดและหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินที่ไม่จำเป็น
5. การจัดการความเสี่ยง
การลงทุนทั้งหมดมีความเสี่ยง การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภทจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดี
6. ลงทุนในตัวเอง
การพัฒนาตัวเองเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือการศึกษาต่อจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้
7. หารายได้เสริม
หากมีโอกาส หารายได้เสริมจากงานฟรีแลนซ์หรือการทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาการลงทุนในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์
8. ติดตามและปรับปรุงแผนการเงิน
ติดตามการเงินของคุณอย่างสม่ำเสมอ และปรับปรุงแผนการเงินตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง อย่าลืมทำการประเมินและทบทวนแผนการลงทุนเป็นระยะ ๆ