รัฐบาลได้เปิดตัวโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการชำระหนี้ โครงการนี้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท, รถไม่เกิน 8 แสนบาท, จักรยานยนต์ไม่เกิน 5 หมื่นบาท, และ SMEs ไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 และค้างชำระเกิน 30 วันแต่ไม่เกิน 365 วัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567
ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิลดค่างวดเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลดค่างวดตามลำดับ 50%, 70%, และ 90% และค่างวดที่จ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปหักเงินต้น หากลูกหนี้ชำระตรงเวลาเป็นเวลา 3 ปี ดอกเบี้ยที่พักไว้ในช่วง 3 ปีนั้นจะได้รับการยกเว้นทั้งหมด
เงื่อนไขและการสนับสนุน
ลูกหนี้จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยภาครัฐและสถาบันการเงินจะร่วมกันสนับสนุนเงินในการให้ความช่วยเหลือฝ่ายละครึ่ง (50%) เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ประกอบด้วย 2 มาตรการสำคัญ ได้แก่:
- มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์”
- เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็ก โดยการปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวด และพักภาระดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดชำระเงินต้นทั้งหมด และดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการยกเว้นหากลูกหนี้ชำระเงินตรงเวลาและไม่ทำสัญญาสินเชื่อเพิ่มเติมในช่วง 12 เดือนแรกของการเข้าโครงการฯ
- มาตรการ “จ่าย ปิด จบ”
- เป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสียหรือสถานะ NPL ที่มียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยลูกหนี้ต้องเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้บางส่วน ให้ลูกหนี้สามารถเปลี่ยนสถานะจาก “หนี้เสีย” เป็น “ปิดจบหนี้” และเริ่มต้นใหม่ได้เร็วขึ้น
การเข้าร่วมโครงการและความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ในช่วงเริ่มต้น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์, สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ Non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ส่วนในระยะต่อไป ผู้ประกอบธุรกิจกลุ่ม Non-bank อื่น ๆ จะมีความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหา ‘หนี้ครัวเรือน’ ได้อย่างเป็นรูปธรรมและครอบคลุมมากขึ้น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการนี้จะครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ขนาดเล็กรวมจำนวน 2.1 ล้านบัญชี เป็นลูกหนี้ 1.9 ล้านราย และมียอดหนี้รวมประมาณ 8.9 แสนล้านบาท โดยการแก้หนี้ที่ยั่งยืนต้องควบคู่ไปกับการเพิ่มทักษะและเสริมสร้างรายได้ให้กับลูกหนี้
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้มี 2 จุดสำคัญที่ต่างจากที่ผ่านมา คือ 1) การปรับโครงสร้างหนี้ที่เน้นตัดเงินต้น และลดภาระผ่อนในช่วง 3 ปี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ และ 2) การร่วมสมทบเงิน (Co-payment) จากภาครัฐและสถาบันการเงิน เพื่อช่วยลดภาระจ่ายของลูกหนี้
การสนับสนุนจากภาคธนาคาร
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย คาดว่าธนาคารพาณิชย์และบริษัทลูกในกลุ่มจะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้ราว 1.5 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้กว่า 4 แสนล้านบาท ทั้งนี้ สถาบันการเงินของรัฐยังอยู่ระหว่างการหารือกับ ธปท. และกระทรวงการคลัง เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้กลุ่ม Non-bank และกลุ่มลูกหนี้เปราะบาง
คาดว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ทั้งสองมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐจะช่วยเหลือลูกหนี้ได้ประมาณ 6 แสนบัญชี คิดเป็นยอดหนี้กว่า 4.5 แสนล้านบาท
การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
ลูกหนี้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ได้ที่ https://bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
รัฐคลอดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย บ้านไม่เกิน 5 ล้าน , รถไม่เกิน 8 แสน , จยย.ไม่เกิน 5 หมื่น , SMEs ไม่เกิน 5 ล้าน เฉพาะที่เป็นหนี้ก่อน 1 ม.ค.67 และค้างชำระเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน ณ วันที่ 31 ต.ค.67 ให้สิทธิลดค่างวด 3 ปี 50-70-90% ตามลำดับ… pic.twitter.com/yceJNVKUEb
— สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว (@sorrayuth9111) December 11, 2024