[ad_1]
| ไม่กินตามใจอยาก |
ความยับยั้งชั่งใจในการดื่มกินเป็นส่วนสำคัญของวิถีทางของท่านนบีและคนยุคแรก เมื่อเศาะฮาบะฮฺบางท่านเห็นคนยุคหลังๆ ดื่มกันอย่างสุขสำราญ เขาก็เลยตั้งคำถามว่า พวกท่านดื่มกันกันได้ขนาดนี้ ขณะที่นบีของพวกท่านไม่มีกระทั่งอินทผาลัมธรรมดาๆ (เกรดต่ำ)ไว้กิน ?
อับดุลเราะหมาน บินเอาฟ เศาะฮาบะฮฺผู้มั่งคั่งจะร้องให้ เมื่อเขาทานเนื้อกับขนมปังได้พร้อมๆ กัน เขาบอกว่า เรากินสองสิ่งนี้ได้พร้อมๆ กัน ขณะที่ท่านนบี ถ้ากินเนื้อก็ไม่มีขนมปัง ถ้ามีขนมปังก็ไม่มีเนื้อ
การใช้ชีวิตอย่างปกติประจำวันด้วยการดื่มกินกันตามใจอยาก ยุ่งแต่กับการสรรหาอาหารเลิศรสมากิน คือสิ่งที่ขัดกับวิถีทางของคนยุคแรก
ครั้งหนึ่งท่านอุมัร ไปหาลูกชายของท่านคืออับดุลลอฮฺ แล้วพบวาเขากำลังกินเนื้ออยู่ ท่านถามว่า “นี่เนื้ออะไรกัน?” อับดุลลอฮฺ บอกว่า “พวกเราเรารู้สึกอยากกินมัน” ท่านอุมัรบอกกลับไปว่า “ทุกครั้งที่เจ้าอยากกินอะไร เจ้าก็หามันมามากินทันทีหรือ? นับเป็นความฟุ่มเฟือยแล้ว สำหรับคนที่กินทุกอย่างที่ตัวเขาอยาก”
ถึงอย่างไรอิสลามก็ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอดๆ อยากๆ หรือไม่สามารถกินของดีๆได้ แต่หมายถึงการพยายามไม่ดื่มกินกันอย่างสุขสำราญเกินไป ไม่ควรมีรสนิยมที่สรรหาแต่ของดีๆ หรือของแพงๆ มากินโดยส่วนตัว แต่ถ้ามีแขกมา ท่านนบีก็เลี้ยงกันอย่างเต็มที่เช่นกัน ถือว่าได้กินของดีๆ ไปพร้อมกับวันที่มีแขก การกินของดีๆ จึงมักไม่ได้เกิดขึ้นเป็นการส่วนตัว แต่เกิดขึ้นร่วมกับคนอื่นๆ ในจังหวะเวลาของมัน
อิสลามสอนเราไม่ให้กินตามใจอยาก นอกจากจะช่วยดูแลสุขภาพได้ง่ายและมีจิตวิญญาณที่โล่งแล้ว ยังเป็นการระลึกถึงคนที่ขาดแคลนและหิวโหย ซึ่งสมควรได้รับการแบ่งปันเป็นอย่างยิ่ง
|อัล อัค|
[ad_2]
Source (แหล่งอ้างอิง)