ในมุมมองของอิสลาม การพิจารณาว่า เงินเฟียต (Fiat money) เป็น “เงินบาป” หรือเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์ยากให้กับมนุษยชาตินั้นไม่ได้เป็นการสรุปที่ตรงตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามทั้งหมด แต่อิสลามมีหลักการที่มุ่งเน้นความยุติธรรม ความสมดุลในการแลกเปลี่ยน และการป้องกันความอยุติธรรม เช่น การแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่เหมาะสม (ริบา) ซึ่งห้ามอย่างชัดเจน
1. เงินเฟียตและระบบดอกเบี้ย
ปัญหาที่อาจเกิดจากการใช้เงินเฟียตในสายตาของผู้วิจารณ์ระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ คือการที่มันเป็นเงินที่ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง (เช่นทองคำหรือทรัพย์สินที่จับต้องได้) และมูลค่าของมันขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐและธนาคารกลาง สิ่งนี้อาจทำให้เกิด ภาวะเงินเฟ้อ หรือ ความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในอิสลาม การเน้นไปที่ การค้าขายที่ยุติธรรม และการหลีกเลี่ยง ริบา เป็นจุดสำคัญ ไม่ใช่ตัวสกุลเงินเองที่เป็นบาป แต่เป็นการใช้เงินในทางที่ผิด ที่ส่งผลต่อความทุกข์ยาก
2. ความทุกข์ยากและความอยุติธรรมทางเศรษฐกิจ
การกระจายความทุกข์ยากในสังคมอาจเกิดจาก การบริหารจัดการที่ไม่เป็นธรรม และ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ซึ่งบางคนอาจมองว่าเงินเฟียตหรือระบบเศรษฐกิจปัจจุบันเอื้อให้เกิดปัญหาเช่นนี้ แต่หากระบบการเงินถูกใช้อย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมตามหลักการศาสนา ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจก็จะลดลง
ในอิสลาม มีระบบที่ส่งเสริม ซะกาต (การจ่ายภาษีเพื่อช่วยเหลือคนยากจน) และการทำ วะกัฟ (การบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณะประโยชน์) ซึ่งเป็นแนวทางที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลในสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
3. ข้อสรุป
การที่เงินเฟียตถูกมองว่าเป็น “เงินบาป” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเงินเอง แต่ขึ้นอยู่กับ วิธีการใช้และระบบเศรษฐกิจ ที่มาควบคู่กับมัน การใช้เงินในลักษณะที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ยเกินควร (ริบา) หรือการกดขี่ทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่อิสลามไม่ยอมรับ และการทำธุรกรรมใดๆ ก็ตามควรเป็นไปในทางที่ยุติธรรม
วิดีโอนี้อธิบายว่า ระบบเงินเฟียต (Fiat money) เป็นระบบที่เงินถูกสร้างง่ายจากหนี้และดอกเบี้ย ซึ่งขัดกับหลักศาสนาอิสลามและศาสนาอื่นที่เน้นคุณธรรมและความยุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญ Mu’aawiyah Tucker แสดงให้เห็นว่าระบบนี้ทำลายความมั่งคั่งของผู้คนและเป็นบาปในมุมมองศาสนา เขายังเชื่อว่า Bitcoin เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากไม่ขึ้นกับหนี้หรือดอกเบี้ย
ระบบเงินเฟียต (Fiat Money) ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีมูลค่าแท้จริง และสามารถผลิตเพิ่มได้โดยรัฐหรือธนาคารกลางจากการก่อหนี้และการเก็บดอกเบี้ย ซึ่งขัดต่อหลักศาสนาอิสลามที่ห้ามริบา (ดอกเบี้ย) และมุ่งเน้นความยุติธรรม การใช้ระบบเงินเฟียตถูกมองว่าทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและความไม่มั่งคั่งในสังคม ทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์หรือ “เงินบาป” เนื่องจากส่งผลเสียต่อมนุษยชาติในระยะยาว
ในแง่นี้ ศาสนาอิสลามไม่สนับสนุนการทำธุรกรรมที่ใช้ดอกเบี้ยและการเอาเปรียบผู้อื่น โดยถือว่าระบบที่อิงกับหนี้และดอกเบี้ยเป็นระบบที่ไม่เป็นธรรมและก่อให้เกิดความชั่วร้ายทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ระบบเงินเฟียตยังถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือในการสะสมความมั่งคั่งของคนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะในประเทศที่มีนโยบายการพิมพ์เงินจำนวนมากซึ่งทำให้ค่าเงินลดลง (เงินเฟ้อ) และผลักภาระให้ประชาชนทั่วไปต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ในวิดีโอ “Bitcoin and Morality” ผู้เชี่ยวชาญ Mu’aawiyah Tucker ได้นำเสนอ Bitcoin เป็นตัวเลือกที่ดีและสอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลามมากกว่า เนื่องจากมันไม่สามารถผลิตเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนเงินเฟียต และไม่ขึ้นกับระบบหนี้หรือดอกเบี้ย Bitcoin มีข้อจำกัดในการผลิต (จำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ) และทำงานในระบบที่ไม่สามารถควบคุมได้จากส่วนกลาง ดังนั้นมันจึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างความยุติธรรมทางเศรษฐกิจได้มากกว่าในสายตาของบางกลุ่ม
การสร้างระบบการเงินที่ยึดหลักคุณธรรมและหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยเป็นสิ่งสำคัญในอิสลาม นอกจากนี้ Mu’aawiyah Tucker ยังมองว่า Bitcoin อาจเป็นทางออกที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างระบบการเงินที่สอดคล้องกับความยุติธรรม
Mu’aawiyah Tucker มองว่า Bitcoin นั้นสอดคล้องกับหลักศาสนามากกว่า เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่ไม่สามารถสร้างได้จากการก่อหนี้หรือดอกเบี้ย และมีการจำกัดการผลิตที่แน่นอน สิ่งนี้ตรงข้ามกับระบบเงินเฟียตซึ่งถูกผลิตขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด ระบบเงินเฟียตถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรมทางเศรษฐกิจ และขัดต่อหลักการทางศาสนาที่เน้นความยุติธรรมในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะในศาสนาอิสลามที่ห้ามริบาและการเอาเปรียบทางการเงิน
Mu’aawiyah อธิบายว่าเงินเฟียตเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ ภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั่วไป เนื่องจากมูลค่าของเงินลดลงเมื่อมีการผลิตเพิ่มมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ เช่น เมื่อรัฐพิมพ์เงินใหม่ในปริมาณมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่าที่แท้จริงของเงินเฟียตจะลดลง และทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น สิ่งนี้มีผลต่อชีวิตประจำวันของคนในสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยากจน
เขายังอธิบายว่า Bitcoin นอกจากจะมีข้อดีในด้านการป้องกันเงินเฟ้อแล้ว ยังมีคุณลักษณะของความโปร่งใสและความปลอดภัยในระบบ เนื่องจากมันทำงานผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงได้ง่าย ระบบนี้เป็นระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องอาศัยความไว้วางใจในสถาบันกลาง เช่น รัฐบาลหรือธนาคาร ทำให้ Bitcoin ถูกมองว่าเป็นสื่อกลางที่สามารถสร้างความเท่าเทียมกันได้มากกว่าในทางการเงิน
สิ่งที่ Mu’aawiyah Tucker เน้นย้ำคือการที่ Bitcoin ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ทางเทคนิค แต่ยังสอดคล้องกับหลักคุณธรรมในศาสนา เนื่องจากมันไม่ขึ้นอยู่กับการเอาเปรียบทางการเงิน และไม่สร้างหนี้หรือดอกเบี้ย ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักศาสนาอิสลามที่สั่งสอนให้มีความยุติธรรมในการทำธุรกรรม
หลักการของ บิตคอยน์ ว่ามันไม่เพียงแค่มีความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แต่ยังสอดคล้องกับหลักคำสอนทางศาสนา โดยเฉพาะในศาสนาอิสลามซึ่งห้ามการทำธุรกรรมที่มีดอกเบี้ยหรือเอาเปรียบกัน Bitcoin ซึ่งถูกจำกัดจำนวนและไม่ขึ้นกับระบบหนี้หรือการพิมพ์เงินอย่างไม่มีขีดจำกัด ทำให้มันมีเสถียรภาพและความโปร่งใสในการใช้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดจากเงินเฟียต เช่น การเกิดเงินเฟ้อที่ทำลายความมั่งคั่งของผู้คน
เขาชี้ให้เห็นว่าระบบเศรษฐกิจปัจจุบันที่พึ่งพาเงินเฟียต ทำให้ผู้คนต้องต่อสู้กับการสูญเสียมูลค่าของเงิน ขณะที่กลุ่มเล็ก ๆ ที่มีอำนาจทางการเงินสามารถใช้ประโยชน์จากการพิมพ์เงินและดอกเบี้ยที่สะสมอยู่ในระบบนี้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มคนยากจนและชนชั้นกลางจะต้องรับผลกระทบโดยตรงจากการที่ค่าเงินลดลง ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นในขณะที่รายได้ไม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ในทางตรงกันข้าม Bitcoin มีศักยภาพในการสร้าง ระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับศีลธรรมทางศาสนา เพราะมันไม่มีระบบดอกเบี้ย และการทำงานบนบล็อกเชนทำให้ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส นอกจากนี้ มันยังมีความปลอดภัยสูงจากการปลอมแปลงและการทุจริต Mu’aawiyah Tucker เสนอว่า Bitcoin อาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนและกระจายความเสมอภาคทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น โดยไม่ทำลายหลักการทางศาสนาหรือจริยธรรม
ท้ายที่สุด Mu’aawiyah Tucker เน้นว่า บิตคอยน์เป็นมากกว่าสกุลเงินทางเลือก แต่มันเป็น ระบบทางการเงินที่ตอบโจทย์ด้านศีลธรรมและคุณธรรม ซึ่งแตกต่างจากระบบเงินเฟียตที่เขาเชื่อว่าเป็นบาปต่อมนุษยชาติ