[ad_1]
l สิ่งที่คนอื่นทำแล้วเรารู้สึกดี เราน่าจะรับมาทำบ้าง l
มันใช้ไม่ได้ทุกเรื่องกับแนวคิดที่ว่า “สิ่งที่คนอื่นทำแล้วเรารู้สึกดี เราน่าจะรับมาทำบ้าง” แต่ก็ใช้ได้กับหลายเรื่องเลยทีเดียว
— เรารู้สึกดีที่เพื่อนพยายามฟังเรื่องที่เราพูด ผละจากจอมือถือ ไม่มองไปทางอื่น และจับประเด็น หรือถามกลับได้ ดังนั้น เราควรฝึกสนใจเมื่อคนอื่นพูด วางมือถือลงบ้าง และถ้าคิดว่ามีคำแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ควรแนะนำไปบ้าง
— เรารู้สึกดีที่มีเพื่อนประเภทช่วยจ่ายค่าอาหารให้เรา หรืออย่างน้อยจ่ายมากกว่าเราเวลาแชร์กันเสมอ ดังนั้น เราควรฝึกให้เป็นคนจ่ายเลี้ยงคนอื่นได้ง่ายๆ หรือฝึกจะจ่ายมากกว่าคนอื่นเสมอเมื่อต้องแชร์กัน
— เรารู้สึกดีที่มีเพื่อนประเภทเวลาเรามีปัญหาเดือดร้อนอะไร พ่อแม่ไม่สบาย หรือคนที่เรารักเสียชีวิต เขาจะมาถึงบ้านทันที และพร้อมช่วยทุกอย่าง ดังนั้น เราต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนเร็วในความเดือดร้อนของคนใกล้ชิด ญาติสนิท หรือมิตรสหาย
— เรารู้สึกดีที่พบเจอคนที่มีไลฟ์สไตล์ง่ายๆ เฟรนลี่ไม่เรื่องมาก แต่งตัวง่ายๆ และเรียบร้อยดี ชีวิตที่ง่ายๆ และดูธรรมดาแบบนี้ แต่กลับเป็นคนที่สามารถลุกขึ้น “กิยาม” ได้แทบทุกคืน โดยคนอื่นไม่รู้และไม่สนใจที่จะให้คนอื่นรู้ด้วย ดังนั้น เราควรฝึกชีวิตง่ายๆ ที่เป็นแบบนี้บ้าง
— เรารู้สึกดีที่คบกับเพื่อนที่นุ่มนวลในเรื่องศาสนา แม้แนวคิดบางอย่างอาจจะไม่ตรงกัน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจ ไม่รุกไล่หรือครอบงำ แต่ทำเพียงแค่อธิบายสิ่งที่ตัวเองคิดและเข้าใจ ดังนั้น เราก็อย่าเป็นคนที่แข็งกร้าวเรื่องศาสนากับใคร ไม่ไปไล่หวดไล่ขยี้ คิดแต่เพียงการอธิบายดีๆ ไม่อคติ มีความสมเหตุสมผล และดุอาอ์ให้ทั้งเราทั้งเขาได้อยู่ในทางนำ
แต่นั่นแหละ ความรู้สึกว่าดีก็ใช้ไม่ได้เสมอไป สิ่งที่เรารู้สึกดีหรือคิดไปเองว่าดี อาจจะไม่ดีจริงๆ ก็ได้ ความรู้สึกว่าดีของคนเราจึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงจำเป็นที่ต้องอิงกับบรรทัดฐานของท่านนบีเสมอ ถ้าความรู้สึกดีนั้นสอดคล้องกับสิ่งที่ศาสนาเห็นว่าดี มันก็ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีที่มาปรากฏให้เราได้เห็น และควรเป็นเรื่องที่ชวนให้เราได้ปฏิบัติตามได้ง่าย
|อัล อัค|
_________________
* อีด มุบาร็อก “ตะก็อบบะลัลลอฮุมินนาวะมินกุม”
[ad_2]
Source (แหล่งอ้างอิง)
